สหรัฐอเมริกากำลังพัฒนาซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่เร็วที่สุดในโลกชื่อว่า Discovery ซึ่งจะมีความเร็วมากกว่า Frontier ถึง 3-5 เท่า ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ใหม่นี้จะถูกติดตั้งที่ Oak Ridge Leadership Computing Facility (OLCF) ภายในปี 2027 หรือ 2028 โดย Discovery จะมีความสามารถในการประมวลผลขั้นสูง ทั้งในด้านปัญญาประดิษฐ์ การจำลองระบบ และการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ต่าง ๆ นอกจากนี้ยังมุ่งเน้นการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อสนับสนุนการค้นคว้าวิจัยและพัฒนานวัตกรรมใหม่ ๆ ในหลากหลายสาขา ทั้งการแพทย์ วัสดุศาสตร์ และพลังงานที่ยั่งยืน
Discovery จะช่วยให้นักวิจัยทั่วโลกสามารถใช้ในการศึกษาปัญหาวิทยาศาสตร์และอุตสาหกรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็วยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการฝึกฝน AI เพื่อการค้นพบทางวิทยาศาสตร์ การทำนายการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การเร่งการค้นพบยาและการรักษามะเร็ง ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ใหม่นี้ยังมีความสำคัญต่อการพัฒนาความสามารถในการคำนวณและการจำลองสถานการณ์ที่ซับซ้อน ซึ่งจะเป็นพื้นฐานสำคัญในการพัฒนา AI ที่มีความปลอดภัยและเชื่อถือได้ในอนาคต
การพัฒนา Discovery ยังมุ่งเน้นไปที่การเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน โดยคาดว่าจะเพิ่มกำลังการคำนวณได้ถึง 500 เท่าในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา แต่การใช้พลังงานเพิ่มขึ้นเพียง 4 เท่าเท่านั้น ซึ่งการพัฒนานี้จะช่วยให้นักวิทยาศาสตร์สามารถสร้างแบบจำลองและการจำลองสถานการณ์ที่ซับซ้อนได้มากขึ้น ช่วยผลักดันการค้นพบใหม่ ๆ ในด้านต่าง ๆ ของวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และการพัฒนาที่ยั่งยืน
ที่มา : Wccftech